ความรู้เกี่ยวกับการประกัน


การประกันภัยคืออะไร 
การประกันภัย คือ การจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยในจำนวนที่เล็กน้อย (เมื่อเทียบกับความเสียหายแล้ว) เพื่อป้องกันไม่ให้ต้องเสียเงินเยอะในกรณีที่เกิดความเสียหายขึ้นจริง โดยบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายแทนคุณ การประกันภัยเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการบริหารการเงินของคุณ เพราะเป็นวิธีที่ทำให้คุณสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดต่อตัวหรือทรัพย์สินของคุณได้ทุกเมื่อ โดยบริษัทที่คุณทำประกันภัยไว้จะจ่ายค่าทดแทนความเสียหายให้ตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ดังนั้นในการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้แก่คุณและครอบครัว การประกันภัยจึงมีประโยชน์อย่างมากและเป็นส่วนที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด อย่างไรก็ตาม ก่อนซื้อประกันภัย คุณควรทำความเข้าใจกับหลักการประกันภัยก่อน เพื่อจะได้สามารถเลือกซื้อประกันภัยแบบที่เหมาะสมกับคุณในราคาที่คุ้มค่าที่สุด




      การประกันภัยมิได้เป็นการทำให้ความเสี่ยงหรืออุบัติเหตุหายไป แต่การประกันภัยจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ด้านการเงินตลอดจนการดำเนินการต่างๆ อันเนื่องมาจากความเสียหายนั้น แต่อย่างไรก็ตามวิธีการป้องกันความเสียหายที่แท้จริงและดีที่สุดคือการมีความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตของคุณเอง ส่วนการประกันภัยนั้นคุณควรมีไว้เพื่อเป็นแหล่งสำรองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นนั่นเอง




ประโยชน์ของการทำประกันชีวิต


1. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ในกรณีที่หัวหน้าครอบครัวหรือผู้หารายได้หลักของครอบครัวเกิดเสียชีวิตหรือทุพพลภาพทำให้รายได้ที่เคยมอบให้แก่ครอบครัวเป็นประจำต้องสิ้นสุดลงแต่ค่าใช้จ่ายของครอบครัวที่ต้องใช้จ่ายเป็นประจำยังคงมีอยู่ต่อไป เช่นค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าอาหาร ค่าเล่าเรียนบุตร ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเป็นต้น ดังนั้น เงินจากการประกันชีวิตจึงเข้ามาทดแทนรายได้ในส่วนนี้ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัวได้ระยะเวลาหนึ่ง

2. เพื่อเป็นทุนการศึกษาของบุตร การประกันชีวิตเป็นทางเลือกหนึ่งของการวางแผนทางการเงินสำหรับพ่อแม่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการศึกษาของบุตรในกรณีที่พ่อแม่อาจต้องจากไปก่อนวัยอันสมควร เงินที่ได้จากการประกันชีวิตของท่าน สามารถทำให้บุตรของท่านมีทุนการศึกษาต่อไปในอนาคตได้

3. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล คุณเคยเข้าการรักษาในโรงพาบาลรึเปล่าครับเพราะการเข้ารักษาในโรงพยาบาลแต่ละครั้งต้องใช้เงินรักษาเป็นจำนวนมากยิ่งถ้าเกิดอุบัติเหตุด้วยแล้ว ค่าใช้จ่ายจะยิ่งสูงขึ้นไปอีก ในยามเจ็บป่วยค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเป็นผลให้เงินออมที่มีอยู่น้อยลงและยิ่งการเจ็บป่วยยืดเยื้อเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของครอบครัวการประกันสุขภาพจึงเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถลดความกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้

4. เพื่อเป็นเงินสำรองจ่ายในยามฉุกเฉิน การประกันชีวิตเป็นการเตรียมรองรับหากเกิดปัญหาทางการเงินในอนาคต เมื่อมีความจำเป็นฉุกเฉินก็สามารถจะนำเงินส่วนนั้นมาใช้ได้ทันที การประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เมื่อเวลาผ่านไปจะมีมูลค่าเวนคืนเงินสดที่เพิ่มขึ้นทุกปี จึงเป็นแหล่งเงินสำรองยามต้องการเงินสดฉุกเฉิน

5. เพื่อเป็นค่าลดหย่อนภาษี ผู้ทำประกันชีวิตสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาทสำหรับการประกันชีวิตที่มีระยะเวลาเอาประกันภัยตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป

6. เพื่อเป็นรายได้ไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณอายุ การประกันชีวิตเป็นเสมือนแหล่งรายได้ในยามเกษียณ

7. เพื่อปลูกฝังให้เกิดนิสัยการออม ผู้ทำประกันชีวิตต้องเก็บออมเงินไว้เพื่อชำระเบี้ยประกันตามกำหนดเวลาจึงเป็นการฝึกนิสัยการประหยัดและการออม

8. เพื่อเป็นเงินใช้หนี้ในภาวะที่ผู้ทำประกันชีวิตมีหนี้สินอยู่ หากผู้ทำประกันชีวิตเกิดเสียชีวิตหรือตกเป็นบุคคลทุพพลภาพภาระหนี้สินจะตกอยู่กับบุคคลในครอบครัว หากมีการทำประกันชีวิตไว้ครอบครัวสามารถนำเงินที่ได้จากการทำประกันชีวิต ไปชำระหนี้สินเหล่านั้นได้



ทำไมจึงต้องทำประกัน
ทุกคนคงไม่ปฏิเสธว่า สิ่งสำคัญสำหรับการดำรงชีวิตก็คือปัจจัย 4 อันได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค นอกจากปัจจัย 4 แล้ว คนเรายังมีความต้องการปัจจัยที่ 5 และปัจจัยที่ 6 เพิ่มขึ้น นั้นก็คือ รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ สิ่งอำนวยความสะดวก การศึกษาของบุตร สิ่งเหล่านี้ เราเรียกว่า "ภาระ" ทุกวันนี้ คนเราจะต้องทำงานเพื่อให้มีรายได้ และนำรายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อดำรงชีพและตอบสนองความต้องการ ดังนั้นเราจะต้องมีการวางแผนด้านการเงินทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เพื่อให้การดำรงชีวิตเป็นไปอย่างมีความสุข แต่ทุกวันนี้ คนเราจะต้องประสบปัญหาหลักในชีวิต 3 ประการด้วยกัน คือ

ประการที่ 1 อายุสั้นเกินไป
ยอมรับหรือไม่ครับว่า ทุกวันนี้ชีวิตคนเราไม่แน่นอน อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การใช้ชีวิตอย่างประมาท สิ่งเหล่านี้ไม่มีสัญญาณอะไรมาเตือน เมื่อเกิดขึ้น คนส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมรับมือกับสิ่งเหล่านี้ ยิ่งถ้าเกิดขึ้นกับบุคคลที่เป็นเสาหลักของครอบครัว หรือผู้ที่หารายได้หลักในครอบครัว ภาระที่กล่าวมา เช่น ค่าอาหาร ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่ายารักษาโรค ค่าเล่าเรียนบุตร คงต้องตกเป็นภาระของผู้ที่อยู่ข้างหลัง เช่น ภรรยา และลูก
ประกันชีวิต จึงมีความสำคัญในการทดแทนรายได้ที่สูญเสียไป จากการที่ครอบครัวขาดผู้ที่หารายได้หลัก เป็นเงินก้อนหนึ่งที่จะทำให้ครอบครัวได้ใช้ชีวิตอยู่ตามปกติ จนภรรยาสามารถหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวแทน และลูกๆยังสามารถเรียนหนังสือได้ โดยไม่ต้องลาออกจากโรงเรียน

ประการที่ 2 อายุยืนเกินไป
ตามสถิติคนเราจะมีอายุเฉลี่ยถึง 70-80 ปี แต่คนทำงานส่วนมาก จะเกษียณการทำงานที่อายุ 60 ปี ถ้าคนมีฝีมือดีหรือมีประโยชน์ต่อองค์กรอาจจะได้รับการต่ออายุการทำงานไปอีก 5-10 ปี ดังนั้นจะเห็นได้ว่าหลังจากที่เกษียณอายุไปแล้ว คนส่วนใหญ่จะต้องอยู่ไปอีกมากกว่า 15 ปีขึ้นไป และใน 15 ปีที่ว่านี้เป็นการ "อยู่เพื่อใช้เงิน" ไม่ได้อยู่เพื่อหาเงิน
ประกันชีวิต จึงเป็นเสมือนเงินเก็บออมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในยามเกษียณ แต่คนส่วนมากไม่ได้นึกถึงข้อดีของประกันชีวิตตรงจุดนี้ จึงมีคนเกษียณอายุแล้วยังต้องทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงตนเอง หรือต้องเป็นภาระให้กับลูกหลาน

ประการที่ 3 การเจ็บป่วย หรือทุพพลภาพ
ทุกวันนี้ คนเรามีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคภัยไข้เจ็บสูงกว่าสมัยก่อน ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิด อย่างเช่น เกิดโรคร้ายแรง หรือโรคติดต่อ หรืออาจจะเจ็บไข้ได้ป่วยเล็กๆน้อยๆ จะทำให้การเก็บออมเงินของเราสะดุด มีค่าใช้จ่ายในการรักษาโรค หรืออาจจะโชคร้ายถึงขั้นทุพพลภาพ ไม่สามารถหารายได้เพื่อมาเลี้ยงครอบครัว ถ้าเราแค่เจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพียง 1 คืน ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เช่นค่าห้อง ค่าหมอ ค่ายา ก็เป็นหมื่นแล้ว
ประกันชีวิต จึงให้ความคุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาลตั้งกรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก แถมยังมีค่าชดเชยรายได้ในกรณีที่ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล คนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่า สินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดของคนเราคืออะไร สินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดคือความรู้และความสามารถของเราที่จะนำไปแสวงหารายได้ แต่ถ้าหากการเจ็บป่วย หรือทุพพลภาพ มาตัดรอนการหารายได้ของเรา เงินเก็บออมที่มีจะสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้นานแค่ไหน


คนเราจะมีชีวิตที่แสนสุข
ถ้า.....เรามีเงินเก็บออมที่มากพอในยามเกษียณ
ถ้า.....เราคิดก่อนใช้เงิน
ถ้า.....เรายังสามารถหารายได้มาดูแลครอบครัว
และนี่คือเหตุผลว่าทำไมคนเราจึงต้องทำประกันชีวิต
เพราะเราฝากชีวิตกับคำว่า "ถ้า" ไม่ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น